ชันโรง
ชันโรงเป็นชื่อเรียกแมลงจำพวกผึ้งที่ไม่มีเหล็กใน จากการศึกษาพบว่าในปะเทศไทยได้มีการค้นพบพันธุ์ชันโรง จำนวน 23 ชนิด กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ชันโรงมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละภาคของประเทศไทย ภาคกลางเรียกรวม ๆ กันว่าชันโรง ภาคเหนือเรียกชันโรงตัวเล็กว่าขี้ตั๋งนี เรียกชันโรงตัวใหญ่ว่าขี้ย้า ภาคตะวันออกเรียกว่าอีโลม ภาคตะวันตกเรียกว่าตุ้งติ้ง ภาคอีสานเรียกว่าขี้สูดสำหรับชันโรงที่ทำรังใต้ดินและภาคใต้เรียกแมลงอุง เป็นต้น
ชันโรงมีบทบาทสำคัญในการช่วยผสมเกสรพืชโดยเฉพาะพืชป่าและพืชพื้นเมือง ชันโรงเป็นแมลงที่อยู่รวมกันเป็นสังคม มีการสร้างรวงรัง โดยแบ่งเป็นสัดส่วน เป็นเซลล์หรือกระเปาะ ระหว่างกระเปาะเก็บเกสร กระเปาะเก็บน้ำหวาน และกระเปาะสำหรับวางไข่และเลี้ยงดูตัวอ่อน ชันโรงมีการเก็บรักษาอาหารไว้ใช้ในยามที่ขาดแคลนอาหารตามธรรมชาติ
ภายในรัง ชันโรงจะประกอบไปด้วยชันโรง 3 วรรณะเช่นเดียวกันกับผึ้ง คือ วรรณะชันโรงนางพญา วรรณะชันโรงตัวผู้และวรรณะชันโรงงาน ชันโรงมีวงจรชีวิตเช่นเดียวกับผึ้งคือ ไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย
มีหน้าที่ในการวางไข่ และควบคุมรัง เซลล์ของนางพญาจะมีขนาดใหญ่กว่าเซลล์ของชันโรงงาน จะถูกสร้างขึ้นมาเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ เช่น ฤดูดอกไม้บาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงสำหรับการขยายพันธุ์ของชันโรง จากการศึกษา ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด นางพญาของชันโรงผสมพันธุ์กับชันโรงตัวผู้ภายนอกรังหรือผสมพันธ์กันภายในรัง
ชันโรงตัวผู้
มีจำนวนโคโมโซมชุดเดียว (n) มีจำนวนปล้องหนวด 12 ปล้อง มีตารวมใหญ่กว่าชันโรงงาน มีหน้าที่ผสมพันธุ์กับชันโรงนางพญาเพียงอย่างเดียว เหมือนกับผึ้งตัวผู้ การสร้างชันโรงเพศผู้ของรัง จะสร้างเฉพาะฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น เมื่อชันโรงตัวผู้บินออกจากรังไปแล้วจะไม่กลับเข้ารังอีก เนื่องจากชันโรงงานที่ทำหน้าที่รักษารังจะไม่ยอมให้ชันโรงตัวผู้กลับเข้ารัง
ชันโรงงาน
เป็นวรรณะที่มีมากที่สุดภายในรัง และมีหน้าที่ภายในรังเช่นเดียวกับผึ้งงานโดยมีการแบ่งหน้าที่ตามช่วงอายุ เช่น เมื่อมีอายุน้อยจะมีหน้าที่ทำความสะอาดรัง สร้างและซ่อมแซมรวงรัง เลี้ยงดูตัวอ่อน ป้อนอาหารให้ชันโรงนางพญา และป้องกันรักษารังตามลำดับ ส่วนพวกที่มีอายุมากก็จะทำหน้าที่บินออกไปหาอาหารเพื่อนนำมาเก็บสะสมไว้ภายในรังต่อไป
รังของชันโรง
ชันโรงมีการสร้างรังที่แตกต่างจากผึ้งพันธุ์ โดยสามารถจำแนกความแตกต่างตามตาราง
ความแตกต่าง | ผึ้งพันธุ์ | ชันโรง |
ช่องว่างรัง | ไม่มีการปิดช่องว่างภายในรัง | ใช้ cerumen ปิดช่องว่างภายในรัง เหลือทางเข้ารังไว้ |
ทางเข้ารัง | ไม่มีการสร้างปากทางเข้ารัง | มีการสร้างปากทางเข้ารังที่มีลักษณะเป็นท่อ |
การออกแบบการสร้างรัง | เซลล์ตัวอ่อนและเซลล์เก็บอาหารมีลักษณะเหมือนกัน | เซลล์ตัวอ่อนมีขนาดเล็กกว่าและมีลักษณะแตกต่างจากเซลล์เก็บอาหาร |
ลำดับขั้นตอนการขยายขนาดรัง | ขยายรังลงข้างล่าง | ขยายรังขึ้นข้างบน ยกเว้นในสกุลDactylurina |
การสร้างเซลล์ | สร้างขึ้นในเวลาเดียวกันและไม่มีความสัมพันธ์เชื่อมกันกับช่องที่เก็บอาหารและการวางไข่ | สร้างทีละเซลล์ มีความสัมพันธ์
เชื่อมกันกับช่องที่เก็บอาหารและการวางไข่ |
การใช้หลอกเซลล์เก่า | พบปกติ | ไม่พบ |
การสร้างรังของชันโรง
- การสร้างรังในโพรงต้นไม้ที่มีชีวิต เนื่องจากต้นไม้อาจถูกทำลายจากศัตรู เช่น หนอนเจาะลำต้นทำให้เกิดโพรงไม้พบมากในป่าดิบชื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชันโรงที่พบได้แก่ ขี้ย้าแดง
- สร้างรังใต้ดิน โดยอาศัยจอมปลวกเก่าหรือโพรงใต้ดินโดยทำปล่องหรือปากทางเข้าออกเป็นท่อ
- สร้างรังในโพรงต้นไม้ที่ไม่มีชีวิต เป็นชันโรงชนิดที่พบได้ทั่วไปและเป็นชนิดที่ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี
- สร้างรังในโพรงเทียม เช่นในไห กระบอกไม้ไผ่ ท่อน้ำ หรือรอยแตกของผนังบ้าน กำแพง ฯลฯ เป็นชันโรงที่อยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์
- สร้างรังในลักษณะเปิดโล่ง โดยเข้าไปแย่งรังมดในการอาศัยมีเพียงชนิดเดียวที่ทำรังในลักษณะนี้
โครงสร้างรังของชันโรง
1.ปากทางเข้ารัง มีหลายลักษณะเช่น เป็นหลอดหรือปล่อง เป็นรูปปากแตร หรือเป็นรูเล็ก ๆ มียางเหนียว ๆ บริเวณปากทางเข้าออกรัง ชันโรงสามารถผ่านเข้าออกรังได้ครั้ง 2- 3 ตัว
- โครงสร้างภายในรังของชันโรง
ชันโรงมีการสร้างห้องหรือเซลล์ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากระเปาะแบ่งแยกกันตามประโยชน์ใช้สอย คือ มีการสร้างกระเปาะเก็บเกสร กระเปาะเก็บน้ำหวาน กระเปาะสำหรับวางไข่และเลี้ยงดูตัวอ่อน โดยมีการสร้างแบ่งออกเป็นประเภทต่างตามชนิดของชันโรงคือ
– แบบรวมกลุ่มเป็นรูปตัว L
– สร้างรวงตามแนวนอน
– สร้างรวงตามแนวตั้ง
– สร้างรวงแบบเอียงข้างเป็นแนวนอน
วิธีการแยกขยายชันโรง
ในปัจจุบัน เรายังไม่สามารถแยกขยายรังชันโรงโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ได้เหมือนกับการแยกขยายรังของผึ้งพันธุ์ เนื่องจากยังไม่สามารถสร้างนางพญาของชันโรงโดยวิธีย้ายตัวอ่อนได้แต่สามารถขยายพันธุ์โดยอาศัยวิธีการแบบธรรมชาติซึ่งยังขาดประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์ชันโรง อนึ่งในการขยายพันธุ์ชันโรงต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้เลี้ยงเป็นสำคัญ คือ ต้องอยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมกล่าวคือ ชันโรงรังนั้น ๆ มีความต้องการที่จะขยายรังอยู่แล้วทำได้ดังนี้
- จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการขยายรังชันโรง
– รังที่จะทำการแยกขยาย
– เหล็กงัดรังชนิดเดียวที่ใช้ในการเลี้ยงผึ้ง
– หมวกตาข่าย
– เครื่องพ่นควัน
– กระบอกพ่นน้ำชนิดพ่นฝอย
- คัดเลือกรังชันโรงที่สมบูรณ์แข็งแรงมีประชากรชันโรงหนาแน่นมีการสะสมอาหารและน้ำหวานไว้ภายในรังจำนวนมากมีการสร้างเซลล์นางพญาและเซลล์ตัวอ่อน
- ตัดแบ่งกระเปาะเกสร กระเปาะน้ำหวาน กระเปาะตัวอ่อน ประมาณ 1 ใน 3 ของรังเดิมถ้าพบเซลล์นางพญาให้ตัดมาด้วย และให้มีตัวเต็มวัยของชันโรงติดมาด้วยเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ในรังที่แยกใหม่
- ควรตรวจเช็คส่วนที่แยกใส่รังใหม่ให้แน่ใจว่าไม่มีนางพญาชันโรงตัวเดิมติดมาด้วย
- หลังจากนั้นจากเกิดขบวนการสร้างนางพญาชันโรงตัวใหม่ขึ้นตามธรรมชาติโดยจะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการแยกขยายรังชันโรงประมาณ 30 – 40 %
- ช่วงเวลาที่แยกขยายรังชันโรงคือ ช่วงฤดูดอกไม้บานมีการสะสมอาหารไว้ภายในรังเป็นจำนวนมากและภายในรังได้มีการสร้างชันโรงตัวผู้จำนวนมากสำหรับการผสมพันธุ์กับนางพญาชันโรงตัวใหม่
การทำการแยกขยายพันธุ์ชันโรง ยังไม่มีวิธีการที่ให้ผลแน่นอนขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาทดลอง ดังนั้นการแยกขยายพันธุ์ชันโรงยังต้องอาศัยประสบการณ์ช่วงเวลาและโอกาสที่เอื้ออำนวยของธรรมชาติเป็นสำคัญ